MBox คืออะไร
What is MBox?
MBox เป็น Platform ที่ให้บริการแบบ Software as a Service (SaaS) สำหรับลูกค้าที่ต้องการแก้ไขปัญหาทางด้านธุรกิจ ที่มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลายช่องทาง ลดปัญหาเรื่องการส่งต่องาน ทำให้เกิดการทำงานแบบไร้รอยต่อ มอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า สร้างความประทับใจในการบริการผ่านช่องทางที่หลากหลาย รองรับช่องทาง Chat 3 ช่องทาง คือ LINE OA, Facebook Messenger และ Instagram โดยสามารถใช้งานได้ผ่านทาง Web Application

บริหารจัดการได้ทุก Touchpoint
เชื่อมต่อกับ LINE ได้
จัดการได้หลาย LINE OA หลาย FB Messenger
สามารถมี Branded Web Chat เป็นของตัวเอง
เพิ่มการรวมแชทได้ทุกช่องทางไม่จำกัด
ระบบรวมแชทตอบได้ทุกช่องทางมาไว้ที่เดียว
Agent ไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา ตอบสนองลูกค้าได้เร็วขึ้น
รองรับทั้ง Desktop และ Mobile
มีระบบแจ้งเตือนให้ Agent ไม่พลาดทุกการติดต่อจากลูกค้า
กำหนด Status ของ Issue ได้ เพื่อให้เห็น Capacity และ Performance ของทีมได้ชัดเจนขึ้น
ติด Tag Label สำหรับ Issue เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ
มีข้อมูลและ Issue History สำหรับลูกค้าที่เคยติดต่อมาแล้ว
ใส่ Note เกี่ยวกับลูกค้าได้ เพื่อการส่งต่อ Context ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
บริหาร Agent ได้ง่าย จัดการเป็นระบบ
Assignment Rules (Manual, Round-Robin, Least Contact)
มีการกำหนดทีมเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ
กำหนด Permission ได้ ป้องกันปัญหา Chat ลูกค้าหลุดไปถึงทีมที่ไม่เกี่ยวข้อง
มองเห็นความคืบหน้าของทุกการติดต่อ ในหน้าจอเดียว
Pipeline ที่ใช้ได้ทั้ง Sales และ Customer Service
บริหาร Agent ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Kanban View
เลือกดูความคืบหน้าเฉพาะทีมได้
รีพอร์ตที่หลากหลาย เห็นชัดทั้งภาพรวมและรายละเอียด
Summary Dashboard รู้ความเร็วในการทำงานของ Agent ทั้งหมดโดยเฉลี่ยในทุกมุม
Individual Agent & Team Performance Report รู้ความเร็วและจำนวน Issue ที่ปิดได้โดยเฉลี่ยของ Agent แต่ละคน
Tag Label Report รู้ว่าลูกค้าติดต่อเข้ามาเรื่องไหนเยอะ เพื่อต่อยอดไปทำ FAQ หรือ Canned Response เพื่อให้ตอบสนองลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้น
ตอบลูกค้าได้เร็วขึ้น และตรงตามแนวทางของบริษัท
กำหนด Canned Response ที่เหมาะสมกับแต่ละทีมได้
ตั้งค่า Auto Response ได้ในที่เดียว
ความปลอดภัยของข้อมูล
ระบบ MBOX ให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อป้องกันผู้ไม่มีสิทธิเข้ามาใช้หรือแก้ไขข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคต โดยทางเรามีการกำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยไว้เป็น 4 หัวข้อหลัก ดังนี้
การรักษาข้อมูลเป็นความลับ (Secrecy) ระบบสามารถปกป้องข้อมูล เพื่อป้องกันให้ผู้ไม่มีสิทธิ์เข้าใช้ข้อมูลได้ และต้องสามารถกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานแต่ละคนเข้าใช้ได้ตามสิทธิที่กำหนดเท่านั้น
ข้อมูลมีความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) ระบบต้องสามารถรักษาข้อมูลให้มีความถูกต้องตามเงื่อนไขและข้อมูลต้องไม่ผิดเพี้ยน
ข้อมูลพร้อมใช้งานอยู่เสมอ (Availability) ระบบต้องสามารถทำงานได้ตามปกติและสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น (Risk Assessment) การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
Last updated